ชื่อวุฒิ:
ชื่อปริญญาภาษาไทย: ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (คณิตศาสตร์)
ชื่อปริญญาภาษาอังกฤษ: Doctor of Philosophy (Mathematics)
อักษรย่อภาษาไทย: ปร.ด. (คณิตศาสตร์)
อักษรย่อภาษาอังกฤษ: Ph.D. (Mathematics)
สถานที่เรียน:
ประเภทหลักสูตร:
จำนวนหน่วยกิตที่สำเร็จ:
สำหรับหลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์แบ่ง 3 แบบดังนี้
หลักสูตรแบบ 1.1 48 หน่วยกิต
สำหรับผู้ที่สำเร็จปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ทำดุษฎีนิพนธ์ 48 หน่วยกิต
หลักสูตรแบบ 2.1 ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต
สำหรับผู้ที่สำเร็จปริญญาโทแล้วเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ทำดุษฎีนิพนธ์ไม่น้อยกว่า 36 หน่วยกิต และเรียนรายวิชา ไม่น้อยกว่า 12 หน่วยกิต
หลักสูตรแบบ 2.2 ไม่น้อยกว่า 72 หน่วยกิต
สำหรับผู้ที่สำเร็จปริญญาตรีแล้วเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาเอก ทำดุษฎีนิพนธ์ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต และเรียนรายวิชา ไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต
มุ่งเน้นพัฒนาบุคลากรให้เป็นผู้มีความรอบรู้ลึกซึ้งและมีความสามารถในการวิจัยเพื่อพัฒนาคณิตศาสตร์ และ/หรือคณิตศาสตร์ประยุกต์ให้ทัดเทียมมาตรฐานระดับสากล
ปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยีทำให้ทุกคนต้องใช้การคิดคำนวณและเกี่ยวข้องกับตัวเลขอยู่ตลอดเวลา วิชาคณิตศาสตร์เป็นวิชาที่เกี่ยวข้องกับตัวเลข จำนวน การคิดคำนวณต่าง ๆ ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในยุคปัจจุบัน นอกจากจะเกี่ยวข้องกับการคิดคำนวณแล้ว คณิตศาสตร์ยังเป็นรากฐานของเทคโนโลยีทุกแขนง ทั้งทางด้านคอมพิวเตอร์ วิศวกรรม และ อุตสาหกรรมต่าง ๆ เป็นต้น ดังนั้นการมีนักคณิตศาสตร์ที่มีความรู้ความสามารถย่อมส่งผลเป็นอย่างมากต่อการพัฒนาเทคโนโลยี นอกจากนั้น คณิตศาสตร์ยังเป็นวิชาที่เกี่ยวกับการให้เหตุผล กระบวนการทางคณิตศาสตร์จะช่วยให้ผู้เรียนรู้จักการคิดและวิเคราะห์อย่างมีเหตุผล คิดอย่างรอบคอบ และรู้จักการสังเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อนได้อย่างถูกต้อง หลักสูตรคณิตศาสตร์จะทำให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะต่าง ๆเหล่านี้และสามารถนำไปประยุกต์ได้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หลักสูตรแบบ 1.1
เป็นผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาโทหรือเทียบเท่า มีผลสอบภาษาอังกฤษตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
หลักสูตรแบบ 2.1
เป็นผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาโทหรือเทียบเท่า มีผลสอบภาษาอังกฤษตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
หลักสูตรแบบ 2.2
เป็นผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี ที่มีผลการเรียนดีมาก “ดีมาก” หมายถึง มีเกรดเฉลี่ยสะสม 3.25 ขึ้นไป
มีผลสอบภาษาอังกฤษตามที่มหาวิทยาลัยกำหนด
นิสิตต้องมีคุณสมบัติครบตามประกาศกระทรวงศึกษา เรื่อง เกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558 ดังนี้
แบบ 1.1
สอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination) เพื่อเป็นผู้มีสิทธิขอทำดุษฎีนิพนธ์ เสนอดุษฎีนิพนธ์ และสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้ายโดยคณะกรรมการที่สถาบัน อุดมศึกษานั้นแต่งตั้ง ซึ่งจะต้องประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายในและภายนอกสถาบันและต้องเป็นระบบเปิดให้ผู้สนใจเข้ารับฟังได้ สำหรับผลงานดุษฎีนิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของดุษฎีนิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับชาติหรือนานาชาติ ที่มีคุณภาพตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ อย่างน้อย 2 เรื่อง โดยอย่างน้อย 1 เรื่องต้องเป็นผลงานในวารสารระดับนานาชาติ
แบบ 2.1
ศึกษารายวิชาครบถ้วนตามที่กำหนดในหลักสูตร โดยจะต้องได้ระดับคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 จากระบบ 4 ระดับคะแนนหรือเทียบเท่า สอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination) เพื่อเป็นผู้มีสิทธิขอทำดุษฎีนิพนธ์ เสนอดุษฎีนิพนธ์ และสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้ายโดยคณะกรรมการที่สถาบันอุดมศึกษานั้นแต่งตั้ง ซึ่งจะต้องประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายในและภายนอกสถาบันและต้องเป็นระบบเปิดให้ผู้สนใจเข้ารับฟังได้ สำหรับผลงานดุษฎีนิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของดุษฎีนิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ อย่างน้อย 1 เรื่อง
แบบ 2.2
ศึกษารายวิชาครบถ้วนตามที่กำหนดในหลักสูตร โดยจะต้องได้ระดับคะแนนเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 จากระบบ 4 ระดับคะแนนหรือเทียบเท่า สอบผ่านการสอบวัดคุณสมบัติ (Qualifying Examination) เพื่อเป็นผู้มีสิทธิขอทำดุษฎีนิพนธ์ เสนอดุษฎีนิพนธ์ และสอบผ่านการสอบปากเปล่าขั้นสุดท้ายโดยคณะกรรมการที่สถาบันอุดมศึกษานั้นแต่งตั้ง ซึ่งจะต้องประกอบด้วยผู้ทรงคุณวุฒิจากภายในและภายนอกสถาบันและต้องเป็นระบบเปิดให้ผู้สนใจเข้ารับฟังได้ สำหรับผลงานดุษฎีนิพนธ์หรือส่วนหนึ่งของดุษฎีนิพนธ์ต้องได้รับการตีพิมพ์หรืออย่างน้อยได้รับการยอมรับให้ตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติที่มีคุณภาพตามประกาศคณะกรรมการการอุดมศึกษา เรื่อง หลักเกณฑ์การพิจารณาวารสารทางวิชาการสำหรับการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการในวารสารระดับนานาชาติอย่างน้อย 1 เรื่อง
ดุษฎีบัณฑิตที่จบการศึกษาสามารถประกอบอาชีพ นักวิจัย นักวิชาการในหน่วยงานของรัฐและเอกชน ครู อาจารย์ ในสถาบันการศึกษาทั้งในส่วนของรัฐและเอกชน นักวิเคราะห์การเงินในบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และธนาคาร นักวางแผนการผลิตในโรงงานต่าง ๆ และประกอบอาชีพอิสระ